ปั๊มลมทำหน้าที่ในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่ต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุกต์ใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ การใช้งานระบบนิวเมติกส์ในอุตสาหกรรมเล็กๆ ยกตัวอย่างเช่น อู่ซ่อมรถยนต์ ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นปั๊มลมประเภทลูกสูบ ที่มีการใช้ปริมาณลมน้อยเเละแรงดันลมไม่สูง ปั๊มลมประเภทลูกสูบจึงเหมาะกับอุตสาหกรรมเล็กๆ ส่วนเครื่องปั้มลมที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนมากแล้วจะใช้เป็นปั๊มลมประเภทโรตารีสกรู การเลือกปั๊มลมให้เหมาะสมกับงาน จะทำให้การทำงานนั้นราบรื่น ต่อเนื่อง งานออกมาเรียบร้อย
1. ปั้มลมโรตารี่ (ชนิดขับตรง) เป็นปั๊มลมที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะมีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายสะดวก และมีราคาถูก ปั๊มลมชนิดนี้เป็นปั๊มลมที่ตัวมอเตอร์ขับตรงกับลูกสูบ การส่งผ่านพลังงานจึงทำได้เร็วมาก แต่ต้องใช้น้ำมันในการหล่อลื่นลูกสูบ เพื่อลดการสึกหรอที่เกิดขึ้น เสียงจึงค่อนข้างดัง ปั๊มลมโรตารี่ส่วนมากนิยมใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ เหมาะใช้กับเครื่องขัดกระดาษทราย ไขควงลม ปืนลม และเครื่องมือลมตระกูลต่างๆ แต่ไม่ควรใช้งานตลอดทั้งวันแบบพวกงานพ่นสี เป็นต้น ปั๊มลมโรตารี่มีข้อเสียตรงที่เสียงดัง ไม่เหมาะที่จะใช้ในบริเวณที่อยู่อาศัย และไม่เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่อง เพราะมอเตอร์อาจจะร้อนจนไหม้ได้
2. ปั้มลมออยฟรี (Oil free) เสียงเงียบและไม่ต้องเติมน้ำมันหล่อลื่น เป็นนวัตกรรมล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยม ปั๊มลม Oil free พัฒนามาจากปั๊มลมโรตารี่ ทำให้การอัดอากาศเข้ามีความรวดเร็ว อีกทั้งยังมีเสียงที่เงียบมากและไม่ต้องเติมน้ำมัน เหมาะกับงานที่ต้องการลมสะอาด ไม่มีกลิ่นน้ำมัน เช่น งานของทันตแพทย์ที่ต้องใช้เครื่องกรอฟัน งานศิลปะที่ต้องใช้แอร์บรัชสำหรับการพ่นสีลม และเหมาะที่จะใช้ตามบ้านพักอาศัย เพราะเสียงเงียบไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
3. ปั๊มลมแบบลูกสูบสายพาน ปั๊มลมลูกสูบ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังมาขับเคลื่อนลูกสูบให้เคลื่อนที่ขึ้นลง ทำให้เกิดแรงดูดเเละอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยมีวาล์วทางด้านดูดและวาล์วทางออกทำงานสัมพันธ์กัน ถือเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากที่สุดด้วยความเหมาะสมต่อการใช้งานและราคาที่ไม่สูงมากนักและยังสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกอีกด้วย โดยปั๊มลมชนิดนี้สามารถสร้างความดันหรือแรงดันลมได้ตั้งแต่ 1 bar ไปจนถึง 1,000 bar เลยทีเดียว โดยแรงอัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นของการอัด ยิ่งขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างแรงอัดได้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
4. ปั๊มลมประเภทสกรู เป็นที่นิยมในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป เพราะเครื่องปั๊มลม หรือ Air Compressor ประเภทนี้จะให้การผลิตลมที่มีคุณภาพสูง โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังในการหมุนเพลาสกรู 2 ตัวให้หมุนเข้าหากันทำให้เกิดแรงอัดอากาศขึ้นมา เครื่องอัดลมแบบสกรูจะได้ปริมาณลมที่สม่ำเสมอกว่าแบบลูกสูบเเละ ทั้งนี้ปริมาณลมเเละเเรงดันลมขึ้นอยู่กับกำลังของมอเตอร์เเละการออกเเบบชุดสกรู ยิ่งกำลังสูงตัวเครื่องอัดอากาศก็จะสามารถผลิตปริมาณอากาศได้มากเเละมีขนาดที่ใหญ่ตามด้วย